ฉีดไขมันดึงหน้า รีสตาร์ทโครงหน้าด้วยไขมันตัวเอง ให้ลุคอ่อนเยาว์แบบเนียนตา

ใบหน้าที่ดูอ่อนล้าจากการยุบตัวของไขมันชั้นลึก ร่วมกับแรงโน้มถ่วงที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้หลายคนมองหาวิธีคืนความอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ แนวทางที่มาแรงคือการใช้ไขมันของตัวเองเพื่อฟื้นฟูโครงหน้า หรือที่หลายคนเรียกกันว่า ฉีดไขมันดึงหน้า ซึ่งรวมข้อดีของการเติมวอลุ่มและแนวคิดการยกกระชับไว้ในขั้นตอนเดียว เน้นเติมให้ถูก “ชั้น-ตำแหน่ง-ทิศทาง” เพื่อฟื้นมิติใบหน้าให้เต็มแต่ไม่บวมปลอม และยังส่งเสริมคุณภาพผิวจากภายใน เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์นุ่มละมุน แต่งหน้าติดทน ดูอิ่มฟูแบบธรรมชาติสไตล์ ฉีดหน้าเด็ก โดยใช้ทรัพยากรจากร่างกายตัวเองอย่างปลอดภัย

ฉีดไขมันดึงหน้าคืออะไร? ต่างจากฟิลเลอร์อย่างไร และเหมาะกับใคร

ฉีดไขมันดึงหน้า คือเทคนิคการนำไขมันส่วนเกินจากบริเวณหน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก มาผ่านกระบวนการคัดแยกให้ได้เซลล์ไขมันที่มีคุณภาพ แล้วฉีดกลับเข้าสู่ใบหน้าในตำแหน่งที่ยุบตัว เช่น ขมับ ใต้ตา โหนกแก้ม ร่องแก้ม มุมปาก คาง และแนวกรอบหน้า จุดเด่นอยู่ที่การออกแบบ “เวกเตอร์” การฉีดเพื่อให้ได้เอฟเฟกต์เหมือนยกพยุงแก้มกลาง ลดเงาร่องลึก และคืนโครงสร้างสามมิติที่หายไป ทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งผิวตึงจนผิดธรรมชาติ

เมื่อเทียบกับฟิลเลอร์กรดไฮยาลูโรนิก การ เติมไขมัน ให้ผลลัพธ์ที่นุ่มมือและกลืนกับเนื้อเยื่อได้ดีเพราะเป็นของตัวเอง ลดโอกาสแพ้หรือเกิดปฏิกิริยาแปลกปลอม อีกทั้งเพิ่มคุณภาพผิวในระยะยาวจากองค์ประกอบชีวภาพในไขมัน เช่น growth factors และเซลล์กลุ่มสเต็มเซลล์จากไขมัน อย่างไรก็ดี อัตราการรอดของไขมันขึ้นกับเทคนิคและการดูแลหลังทำ โดยโดยทั่วไปช่วงแรกอาจมีการสลายประมาณหนึ่ง จึงนิยมวางแผนเผื่อปริมาณเพื่อให้ผลสุดท้ายพอดี ไม่บวมเกิน

ด้านความคุ้มค่า หากต้องเติมหลายจุดหรือปริมาณมาก ไขมันมักคุ้มกว่าในระยะยาว ส่วนฟิลเลอร์เด่นที่ความแม่นยำและการย้อนกลับได้ เหมาะกับการปรับจุดเล็กๆ หรือเคสที่ต้องการทดลองก่อน ในทางปฏิบัติ หลายเคสใช้ร่วมกันเพื่อให้ได้ผลที่ละเอียดอ่อนขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจวางแผน เติมไขมันหน้า ให้เกิดผลลัพธ์แบบยกกระชับโดยยังดูเป็นตัวเอง ควรเริ่มจากการประเมินมิติหน้าแบบองค์รวมและกำหนดยุทธศาสตร์การฉีดตามชั้นกายวิภาคอย่างแม่นยำ

ใครเหมาะ? คนที่มีใบหน้าซูบโทรมจากการลดน้ำหนัก ฮอร์โมน ความเครียด หรืออายุที่มากขึ้น คนที่ต้องการเติมเต็มใต้ตา-ขมับให้สดใส รวมถึงผู้ที่ต้องการปรับโหนกแก้มกลางให้ยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนผู้ที่มีไขมันในร่างกายน้อยมากหรือมีโรคที่ส่งผลต่อการสมานตัว อาจต้องวางแผนอย่างระมัดระวังหรือพิจารณาทางเลือกอื่นร่วมด้วย

ขั้นตอนสำคัญและการดูแล: จากการเก็บไขมันสู่การวางชั้นอย่างแม่นยำ

หัวใจของการ ฉีดไขมัน ให้ผลลัพธ์สวยและเนียนตา คือการออกแบบแผนที่ใบหน้าก่อนทำ ตั้งแต่การประเมินโครงสร้างกระดูก ชั้นไขมันลึก-ตื้น จุดยึดผิว ไปจนถึงแนวเวกเตอร์ที่ช่วย “พยุง” มิดเฟซ จากนั้นจึงกำหนดปริมาณโดยประมาณของแต่ละตำแหน่ง เช่น ขมับข้างละ 2–4 ซีซี ใต้ตาข้างละ 1–2 ซีซี โหนกแก้มกลาง 3–6 ซีซี ร่องแก้ม 1–2 ซีซี และกรอบหน้า 2–6 ซีซี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพหน้าและเป้าหมายความเป็นธรรมชาติ

กระบวนการเก็บไขมันทำภายใต้ยาชาเฉพาะที่หรือยาชา+ยากล่อมประสาท ใช้เทคนิคกดดันต่ำเพื่อถนอมเซลล์ไขมัน จากนั้นนำมาผ่านการแยกด้วยแรงเหวี่ยงหรือระบบกรอง เพื่อคัดเฉพาะไขมันที่แข็งแรงและสะอาด แพทย์มักเตรียมทั้ง “ไมโครแฟต” สำหรับเติมปริมาตร และ “นาโนแฟต” ที่ละเอียดเพื่อส่งเสริมคุณภาพผิวบริเวณรูขุมขนกว้าง ผิวบาง ใต้ตาหมอง หลังจากนั้นจึงเติมกลับด้วยคานิวลาที่ออกแบบมาเพื่อลดการช้ำและหลีกเลี่ยงเส้นเลือดสำคัญ โดยวางในหลายชั้นผิวด้วยเทคนิคพัด-พรมเนื้อไขมันให้กระจายตัวสม่ำเสมอ

หลังทำจะมีอาการบวมฟู 3–7 วันแรก และค่อยๆ เซ็ตตัวภายใน 6–12 สัปดาห์ การดูแลช่วงนี้สำคัญมากเพื่อให้ไขมัน “ติด” ดี ควรหลีกเลี่ยงการกด-นอนทับจุดที่ฉีด นอนยกศีรษะสูง 2–3 คืนแรก ประคบเย็น 48 ชั่วโมงแรก งดซาวน่า งดออกกำลังกายหนัก 1–2 สัปดาห์ และเลี่ยงแอลกอฮอล์ นอกจากนี้การรับประทานอาหารครบหมู่ ดื่มน้ำเพียงพอ และพักผ่อนให้ดีช่วยสนับสนุนการไหลเวียนเลือดสู่ไขมันที่เติม

ความเสี่ยงที่อาจพบได้ เช่น ช้ำ บวมไม่เท่ากันในช่วงแรก ก้อนแข็งเล็กๆ จากไขมันเกาะตัว ซึ่งมักนุ่มลงตามเวลา ส่วนภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงพบได้น้อยมากเมื่อใช้เทคนิคและเครื่องมือที่ถูกต้อง รวมถึงการหลีกเลี่ยงโซนอันตรายสำคัญ การติดตามผลสม่ำเสมอช่วยปรับแต่งรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงเป้าหมายที่สุด ผู้ที่ตั้งใจได้ลุค ฉีดหน้าเด็ก แบบเป็นธรรมชาติสามารถพิจารณาทำร่วมกับทรีตเมนต์ยกกระชับพลังงานหรือนวดยกกล้ามเนื้อใบหน้าเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม เพื่อยืดอายุผลลัพธ์

เคสตัวอย่างและแผนการรักษา: จากหน้าซูบโทรมสู่ลุคอ่อนเยาว์แบบเนียนตา

เคสที่ 1 “หน้าซูบหลังลดน้ำหนักเร็ว” หญิงวัย 32 ปี ลดน้ำหนัก 12 กก. ภายใน 3 เดือน ทำให้ขมับยุบ ใต้ตาลึก โหนกแก้มดับแสงและกรอบหน้าไม่คม เป้าหมายคือเติมวอลุ่มคืนความสดใสโดยไม่ให้ใบหน้าดูบวม เทคนิควางแผนฉีดไมโครแฟตบริเวณขมับข้างละ 3 ซีซี ใต้ตาข้างละ 1.5 ซีซี เสริมโหนกแก้มกลางด้านหน้า 4 ซีซีต่อข้าง และละมุนร่องแก้ม 1 ซีซีต่อข้าง พร้อมนาโนแฟตบางๆ ใต้ตาเพื่อสภาพผิว ผลทันทีคือเงาร่องลึกหายไป 60–70% โหนกแก้มสะท้อนแสงดีขึ้น โดยหลัง 8 สัปดาห์ เมื่อบวมยุบลงเหลือผลสุดท้าย ใบหน้าดูละมุนขึ้นชัดเจนโดยยังคงโครงหน้าเดิม

เคสที่ 2 “หย่อนคล้อยระดับต้น ต้องการเอฟเฟกต์ยกโดยไม่ศัลยกรรมใหญ่” หญิงวัย 45 ปี มี midface descent เล็กน้อย ร่องแก้มเด่นและแนวกรอบหน้าเริ่มเบลอ แผนคือ ฉีดไขมันดึงหน้า เน้นเวกเตอร์พยุงแก้มกลาง ด้วยการเติมในชั้นลึกเหนือกระดูกบริเวณโหนกแก้มหน้า-ข้างร่วมกับเสริมแนวพยุงข้างปีกจมูก ปริมาณรวมราว 10–14 ซีซีทั้งหน้า พร้อมเก็บรายละเอียดมุมปากลง-ขอบคาง ผลคือเกิดเอฟเฟกต์ “ยก” ที่รับรู้ได้โดยไม่ต้องดึงผิวตึง ช่วยลดร่องแก้มและฟื้นกรอบหน้าให้ชัดขึ้น ระดับความอิ่มฟูคงที่หลัง 2–3 เดือน พร้อมแผนเสริมทรีตเมนต์ยกกระชับพลังงานต่ำหลัง 6 สัปดาห์เพื่อคงผลลัพธ์ยาวนาน

เคสที่ 3 “ผู้ชายต้องการความคมชัดธรรมชาติ ไม่หวานเกิน” ชายวัย 38 ปี ใบหน้าตอบช่วงขมับและโหนกแก้มด้านหน้า ทำให้ภาพรวมดูโทรม ความคาดหวังคือให้ดูสดชื่นขึ้นแต่ยังคงความคมคาย จึงเน้น เติมไขมัน แบบ conservative ในชั้นลึกบริเวณขมับข้างละ 2 ซีซี โหนกแก้มหน้า 3 ซีซีต่อข้าง และแนวกรอบกราม 2–3 ซีซี เพื่อดึงเส้นกรอบให้ชัด ผลลัพธ์คือความอ่อนเยาว์ที่กลมกลืน ไม่ทำให้ใบหน้าดูหวานหรือบวมจัด การวางแผนสำหรับเพศชายจึงเน้นแนวกรอบและจุดสะท้อนแสงที่คมกว่าเล็กน้อย

เคล็ดลับสำคัญจากทั้งสามกรณีคือ “ความพอดี” การกระจายไขมันเป็นเส้นใยเล็กๆ หลายชั้นช่วยให้เลือดมาเลี้ยงได้ดี เพิ่มอัตราการอยู่รอด และให้สัมผัสเนียนเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ การนัดติดตามในสัปดาห์ที่ 1–2 และเดือนที่ 1–3 ช่วยประเมินสมดุลสองข้างและตัดสินใจว่าจะต้องปรับแต่งหรือไม่ ในหลายเคส การเสริมเล็กน้อยหลัง 3–6 เดือนเพื่อเก็บรายละเอียดทำให้ผลลัพธ์นิ่งและยืนระยะ โดยเป้าหมายสูงสุดคือความกลมกลืนของมิติหน้า ภายใต้หลักการ “ยกด้วยโครง สวยด้วยวอลุ่ม และคงความเป็นตัวเอง” ของเทคนิค ฉีดไขมันดึงหน้า

About Oluwaseun Adekunle 270 Articles
Lagos fintech product manager now photographing Swiss glaciers. Sean muses on open-banking APIs, Yoruba mythology, and ultralight backpacking gear reviews. He scores jazz trumpet riffs over lo-fi beats he produces on a tablet.

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*